อยู่ใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูงอันตรายแค่ไหน
ปัจจุบันการขยายตัวของเมืองทำให้ที่อยู่อาศัยและชุมชนต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นใกล้กับแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงมากขึ้น แม้จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมา โรคและผลกระทบที่อาจเกิดจากการอยู่ใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง การอยู่ใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูงที่ส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้หลายประการ โดยอาการที่เห็นได้ชัดมีดังนี้ อาการปวดศีรษะและนอนไม่หลับ เนื่องจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวนระบบประสาท ความเครียดและวิตกกังวล จากการรับรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพราะร่างกายต้องทำงานหนักในการต่อต้านผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิดที่อาจเพิ่มขึ้น จากการได้รับรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าสะสม ผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์และพัฒนาการของทารกในครรภ์ ประเภทของเสาไฟฟ้าแรงสูงและระดับความเสี่ยง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของเสาไฟฟ้าแรงสูง อันตรายและระดับความเสี่ยงจะช่วยให้เราสามารถประเมินและป้องกันอันตรายได้ดียิ่งขึ้น โดยเสาไฟฟ้าแรงสูงแต่ละระดับแรงดันมีระยะห่างปลอดภัยและผลกระทบต่อสุขภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1. เสาไฟฟ้าแรงสูงระดับ 115 kV เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูงที่พบได้ทั่วไปในเขตเมือง ระยะห่างปลอดภัยขั้นต่ำ 20 เมตร มีความเสี่ยงระดับปานกลางต่อสุขภาพ โดยอาจส่งผลกระทบเช่นปวดศีรษะเป็นครั้งคราวเมื่ออยู่ในระยะใกล้ รู้สึกเหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียง่ายกว่าปกติ ส่งผลให้อาจมีอาการคลื่นไส้หรือวิงเวียนศีรษะเป็นบางครั้งจนนอนหลับพักผ่อนไม่เต็มที่ ทั้งนี้ความเสี่ยงเหล่านี้จะลดลงเมื่ออยู่ห่างจากเสาไฟฟ้าในระยะที่ปลอดภัย ทำให้เหมาะสำหรับการจ่ายไฟในพื้นที่ชุมชนและโรงงานขนาดกลาง 2. เสาไฟฟ้าแรงสูงระดับ 230 kV มักพบในเขตอุตสาหกรรมและพื้นที่ส่งจ่ายไฟฟ้าระหว่างจังหวัด มีความเสี่ยงระดับสูงต่อสุขภาพ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้แก่กับผู้ที่อยู่ในบริเวณได้แก่ อาการปวดศีรษะรุนแรงและต่อเนื่อง ระบบการนอนหลับแปรปรวน นอนไม่หลับเรื้อรัง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เจ็บป่วยง่ายขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อความผิดปกติของระบบประสาทและอาจมีผลต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ จึงจำเป็นต้องมีระยะห่างปลอดภัยขั้นต่ำ 40 เมตร และต้องมีระบบป้องกันและการเฝ้าระวังที่เข้มงวดในบริเวณที่มีเสาไฟฟ้าแรงสูง 3. …