
Alt text : วิธีตรวจสอบไฟรั่วเบื้องต้น
ปัญหาไฟรั่วเป็นอันตรายเงียบที่สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างต่อเนื่อง หลายคนมักมองข้ามสัญญาณเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น การรู้วิธีตรวจสอบไฟรั่วเบื้องต้นจึงเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมี ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟฟ้ามืออาชีพหรือเจ้าของบ้านทั่วไป บทความนี้จะแนะนำวิธีการตรวจสอบและป้องกันที่สามารถปฏิบัติได้จริง
ไฟรั่วคืออะไร
ไฟรั่ว คือภาวะที่กระแสไฟฟ้าเกิดการรั่วไหลออกจากวงจรไฟฟ้าปกติ โดยทั่วไปไฟฟ้าจะเดินทางจากแหล่งผลิต ผ่านสายส่ง และถูกปรับแรงดันโดยหม้อแปลงไฟฟ้า ก่อนเข้ามายังบ้านเราผ่านมิเตอร์และไหลเวียนอยู่แค่ในสายไฟหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบไว้ แต่เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลไปตามส่วนอื่น ๆ และเราไปสัมผัสส่วนนั้น กระแสไฟฟ้าก็จะไหลผ่านร่างกายเราลงสู่พื้นดิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการถูกไฟดูดนั่นเอง สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากฉนวนสายไฟเสื่อมสภาพ อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน หรือการติดตั้งที่ผิดพลาด
ไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต ต่างกันอย่างไร

หลายคนอาจยังสับสนระหว่างคำสามคำนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันอยู่
- ไฟรั่ว เป็น “สาเหตุ” ที่กระแสไฟไหลออกจากวงจรที่ควรอยู่
- ไฟดูด เป็น “ผลลัพธ์” ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้าที่รั่ว ทำให้กระแสไฟวิ่งผ่านตัวเรา
- ไฟช็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจรเกิดจากกระแสไฟฟ้าที่เดินทางผิดเส้นทาง ก่อให้เกิดประกายไฟและความร้อนสูง มักเกิดกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุดหรือการใช้งานที่ผิดวิธี เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟไหม้ได้
วิธีเช็กไฟรั่วภายในบ้านง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
การตรวจสอบไฟรั่วไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เราสามารถทำได้เบื้องต้นเพื่อประเมินความเสี่ยง มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง
1. ตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า
การตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า ให้เริ่มจากการปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าและหลอดไฟทุกดวงในบ้าน รวมถึงการถอดปลั๊กตู้เย็นและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ออกทั้งหมด จากนั้นสังเกตจานโลหะในมิเตอร์ไฟฟ้า หากยังคงหมุนอยู่แสดงว่ามีการใช้ไฟฟ้า ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของไฟรั่ว
วิธีต่อไปคือการทดสอบเบรกเกอร์โดยปิด-เปิดสลับกัน หากจานโลหะยังคงหมุนเมื่อปิดเบรกเกอร์บางตัว แสดงว่าวงจรนั้นมีปัญหาไฟรั่วแน่นอน ให้รีบตามช่างไฟฟ้ามาแก้ปัญหาโดยด่วน
2. ตรวจสอบปลั๊กไฟ
เดินสำรวจปลั๊กไฟและเต้ารับทุกจุดในบ้าน สังเกตดูว่ามีร่องรอยแตกร้าว คราบดำ หรือรอยไหม้หรือไม่ ลองขยับเบา ๆ ดูว่าเต้ารับยังคงยึดแน่นกับผนังดีอยู่ไหม หรือมีสภาพหลวมคลอนจนน่ากังวล หากพบความผิดปกติเหล่านี้ควรหยุดใช้งานและเรียกช่างมาตรวจสอบแก้ไข เพราะนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาไฟรั่วได้
3. ตรวจสอบสายไฟ
การตรวจสอบสายไฟเป็นวิธีที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ให้ดูปลอกหุ้มยางว่ามีรอยแตก หรือฉีกขาดจนเห็นลวดทองแดงด้านในหรือไม่ หากพบความเสียหายแบบนี้สามารถสันนิษฐานได้ว่า เกิดไฟรั่วแน่นอน ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ แต่ควรติดต่อช่างให้มาเปลี่ยนสายไฟใหม่โดยเร็วที่สุด
สายไฟที่ติดตั้งในที่สูงเช่นบนเพดานหรือฝาผนังก็ต้องตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ซึ่งสายไฟจะมีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปี หากใช้งานเกินกว่านั้นจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่วเพิ่มขึ้น

4. ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า
วิธีตรวจสอบไฟรั่วที่ได้ผลอีกวิธีหนึ่ง คือการสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น พัดลม แอร์ เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ กระทะไฟฟ้า หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ ให้ลองใช้ไขควงวัดไฟแตะลงบนตัวอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนโลหะใกล้เคียง หากพบว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลาถึงแม้ไม่ได้ใช้งาน แสดงว่ากำลังเกิดไฟรั่วอยู่ อย่าเผลอไปแตะหรือสัมผัสโดยตรง เพราะเสี่ยงถูกไฟดูดได้ทันที ทางที่ดีหากตรวจแล้วพบความผิดปกติ ควรหยุดใช้งานและให้ช่างไฟฟ้ามืออาชีพเข้ามาตรวจสอบจะปลอดภัยที่สุด
5. ตรวจสอบเบรกเกอร์และคัตเอาต์
อีกจุดที่ไม่ควรมองข้ามคือการเช็กคัตเอาต์หรือเบรกเกอร์ เพราะถือเป็นตัวช่วยตัดไฟทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เปรียบได้กับด่านป้องกันแรกหากเกิดไฟฟ้าลัดวงจร วิธีตรวจสอบไฟรั่วจากคัตเอาต์คือให้สังเกตตอนเปิดใช้งานว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ เช่น สายไฟขาด ถลอก มีการพันกันยุ่ง หรือมีร่องรอยของสัตว์เล็กเข้าไปทำรัง ถ้าเจอปัญหาแบบนี้แปลว่าคัตเอาต์อาจเริ่มเสื่อมสภาพ ควรเรียกช่างไฟฟ้ามาช่วยตรวจสอบและแก้ไขทันทีเพื่อความปลอดภัย
สัญญาณเตือนไฟรั่วที่ควรรู้
การสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ จะช่วยให้ตรวจพบปัญหาไฟรั่วก่อนที่จะเกิดอันตราย
- ค่าไฟสูงขึ้นผิดปกติ ทั้งที่พฤติกรรมการใช้งานเหมือนเดิม
- เครื่องตัดไฟรั่วทำงานบ่อย หรือเบรกเกอร์ทริปโดยไม่ทราบสาเหตุ
- สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วรู้สึกเหมือนถูกไฟดูด แม้จะแค่เล็กน้อยก็ตาม
- อุณหภูมิรอบ ๆ สวิตช์หรือปลั๊กไฟสูงกว่าปกติ เมื่อสัมผัสจะรู้สึกอุ่นๆ
วิธีป้องกันไฟรั่วในบ้าน
- ติดตั้งระบบกราวด์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน ป้องกันอันตรายจากไฟรั่ว
- เลือกใช้สายไฟและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มอก.
- หมั่นตรวจสอบสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าและสายไฟ
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งปลั๊กไฟในบริเวณที่เสี่ยงต่อความชื้น หรือน้ำท่วมขัง
- เรียกช่างผู้ชำนาญมาตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อความมั่นใจสูงสุด
สรุปบทความ
ปัญหาไฟรั่วเป็นอันตรายใกล้ตัวที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม การสละเวลาตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านเป็นประจำด้วยวิธีง่าย ๆ ที่แนะนำไป จะช่วยให้เราพบเห็นความผิดปกติได้ก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม อย่างไรก็ตาม หากไม่มั่นใจหรือพบปัญหาที่ซับซ้อน การเรียกช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญมาดูแลคือทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณและครอบครัวสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ TETA INTERTRADE จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐาน ทั้งสายไฟฟ้าแรงสูงลูกถ้วยไฟฟ้า สายไฟ THW และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ พร้อมบริการให้คำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง-แรงต่ำสำหรับอาคารทุกประเภทจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง สั่งซื้อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-068-9690 หรือ 086-544-3647
Author
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง สายไฟ ลูกถ้วย ประสบการ์ณมากกว่า 10 ปี
View all posts