Uncategorized

ไฟกระชาก

ไฟกระชาก ภัยร้ายหน้าฝน! รู้ทันสาเหตุและวิธีป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าพัง

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน เสียงฟ้าร้อง ฟ้าแลบอาจเป็นภาพที่คุ้นเคย นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ยังแฝงไปด้วยภัยคุกคามที่มองไม่เห็น นั่นคือปัญหาไฟกระชาก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักรอุตสาหกรรมมูลค่าสูงเสียหายได้ในพริบตา ปัญหาไฟกระชากไม่ใช่เรื่องไกลตัว และความเสียหายที่เกิดขึ้นมักมีมูลค่าสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการป้องกันหลายเท่า บทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไฟกระชาก ตั้งแต่สาเหตุ ผลกระทบ ไปจนถึงแนวทางการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เราสามารถปกป้องทรัพย์สินและลดความเสี่ยงจากปรากฏการณ์ทางไฟฟ้าที่หลีกเลี่ยงได้ยากนี้ ทำไมหน้าฝน-ฟ้าผ่า ถึงเสี่ยงเกิดไฟกระชากบ่อยครั้ง? ช่วงฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่เกิดไฟกระชากบ่อยครั้งที่สุด ปัจจัยสำคัญมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยเฉพาะพายุฝนฟ้าคะนอง การเกิดฟ้าผ่า ไม่ว่าจะผ่าลงโดยตรงที่สายส่งไฟฟ้า ซึ่งมีอุปกรณ์อย่างล่อฟ้าแรงสูงเป็นด่านแรกในการป้องกัน หรือผ่าในบริเวณใกล้เคียง จะทำให้เกิดการเหนี่ยวนำแรงดันไฟฟ้าที่สูงผิดปกติเข้ามาในระบบอย่างฉับพลัน นอกจากนี้ ความชื้นในอากาศที่สูงและฝนที่ตกหนักยังอาจทำให้เกิดปัญหากับระบบจำหน่ายไฟฟ้า เช่น กิ่งไม้พาดสายไฟ หรือทำให้เกิดการลัดวงจรบนผิวของลูกถ้วยไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เป็นฉนวน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟกระชากได้ทั้งสิ้น ไฟกระชาก คืออะไร? ไฟกระชาก (Surge) คือสภาวะที่เกิดแรงดันไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างฉับพลันเกินกว่าระดับปกติ (ในประเทศไทยคือ 220V) ในระยะเวลาสั้น ๆ เปรียบเสมือนคลื่นพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่วิ่งเข้ามาในระบบสายไฟ ซึ่งพลังงานส่วนเกินนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อน ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักรได้ทันที  เปิด 3 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟกระชาก ปัญหาไฟกระชากไม่ได้เกิดจากฟ้าผ่าเพียงอย่างเดียว แต่มีสาเหตุหลากหลายที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้เราวางแผนการป้องกันได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ฟ้าผ่า พายุ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ฟ้าผ่า พายุเข้า เป็นสาเหตุที่รุนแรงที่สุดของการเกิดไฟกระชาก เมื่อเกิดฟ้าผ่าจะส่งแรงดันไฟฟ้าหลายล้านโวลต์เข้ามาในระบบไฟฟ้า …

ไฟกระชาก ภัยร้ายหน้าฝน! รู้ทันสาเหตุและวิธีป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าพัง Read More »

สายดินเครื่องทำน้ำอุ่น

ความสำคัญของสายดินเครื่องทำน้ำอุ่น ทำไมต้องติดตั้ง

ไฟฟ้าคือปัจจัยพื้นฐานในชีวิตประจำวัน แต่ก็มาพร้อมกับอันตรายที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานร่วมกับน้ำ ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นอุปกรณ์ที่เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หากติดตั้งไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้ การมีระบบความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น การติดตั้งสายดินที่ถูกต้องและการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยปกป้องชีวิตของเราและคนในครอบครัวจากอันตรายจากไฟฟ้ารั่วได้ บทความนี้ TETA INTERTRADE จะชวนไปรู้จักสายดินของเครื่องทำน้ำอุ่นให้มากขึ้น ตั้งแต่หลักการทำงานไปจนถึงวิธีตรวจสอบด้วยตัวเอง สายดินคืออะไร? ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในบ้านได้อย่างไร สายดิน คือสายไฟที่ทำหน้าที่เป็นเส้นทางสำรอง เพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่อาจรั่วไหลออกจากวงจรปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถไหลลงสู่พื้นดินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยไม่ไหลผ่านร่างกายของมนุษย์เมื่อเกิดการสัมผัส เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายร้ายแรงอย่างไฟฟ้าดูด การมีระบบสายดินที่ดีในบ้านจึงเป็นมาตรฐานความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ทุกครัวเรือนต้องให้ความสำคัญ หลักการทำงานของสายดินแบบเข้าใจง่าย หลักการทำงานของสายดินอาศัยคุณสมบัติทางธรรมชาติของไฟฟ้าที่มักจะเลือกเดินทางในเส้นทางที่มีความต้านทานน้อยที่สุดเสมอ ในสภาวะปกติร่างกายมนุษย์มีความต้านทานไฟฟ้าสูงกว่าสายไฟ แต่เมื่อร่างกายเปียกน้ำ ความต้านทานจะลดลง หากเราสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิดไฟฟ้ารั่วและไม่มีสายดินไฟฟ้าจะเลือกไหลผ่านร่างกายเราลงสู่พื้น ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ถ้ามีการติดตั้งสายดินที่ถูกต้อง กระแสไฟที่รั่วออกมาจะเลือกเดินทางผ่านสายดิน ซึ่งมีความต้านทานต่ำกว่ามากเพื่อไหลลงดินไป ทำให้เราปลอดภัย ประโยชน์ของการติดตั้งระบบสายดินในบ้าน ทำไม “เครื่องทำน้ำอุ่น” ต้องมีสายดิน? เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ เนื่องจากติดตั้งและใช้งานในพื้นที่เปียกชื้นอย่างห้องน้ำ ซึ่งน้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี เมื่อร่างกายเราเปียกน้ำขณะอาบน้ำ ความต้านทานไฟฟ้าของผิวหนังจะลดลง หากเกิดไฟฟ้ารั่วแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น การติดตั้งสายดินสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่น จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นระบบป้องกันด่านแรกและด่านสำคัญที่สุดที่จะนำกระแสไฟที่รั่วไหลให้หนีไปจากตัวเรา วิธีตรวจสอบสายดินเครื่องทำน้ำอุ่นและระบบความปลอดภัยเบื้องต้น การตรวจสอบสายดินและระบบความปลอดภัยของเครื่องทำน้ำอุ่น เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ยังคงทำงานได้ดี เราสามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ …

ความสำคัญของสายดินเครื่องทำน้ำอุ่น ทำไมต้องติดตั้ง Read More »

เช็คค่าไฟออนไลน์ 2568 ง่าย ๆ ทำได้ 24 ชม. ผ่านเว็บ-ไลน์-แอปพลิเคชัน

เช็คค่าไฟออนไลน์ 2568 ง่าย ๆ ทำได้ 24 ชม. ผ่านเว็บ-ไลน์-แอปพลิเคชัน

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็ว การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในครัวเรือนก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปเช่นกัน การเดินทางไปรอคิวเพื่อชำระบิลค่าไฟฟ้าหรือรอรับใบแจ้งหนี้ทางไปรษณีย์กลายเป็นระบบที่ช้า ปัจจุบันการเช็คค่าไฟออนไลน์ กลายเป็นทางเลือกหลัก ที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทำให้เราสามารถตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายและจัดการข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง บทความนี้ได้รวบรวมวิธีการเช็คค่าไฟออนไลน์แบบง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำตามได้เองที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ก็ตาม รวมวิธีเช็คค่าไฟออนไลน์ทั้ง MEA และ PEA ไม่ว่าเราจะอาศัยอยู่ในเขตเมืองหลวงหรือต่างจังหวัด ผู้ให้บริการด้านไฟฟ้าทั้งสองหน่วยงานหลักของประเทศไทย ทั้งการไฟฟ้านครหลวง (MEA) สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สำหรับพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ ได้พัฒนาช่องทางการเช็คค่าไฟออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคน โดยสามารถแบ่งช่องทางหลัก ๆ ได้ 3 ช่องทางดังนี้ ผ่านแอปพลิเคชัน หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือการเช็คค่าไฟออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและเข้าถึงได้ตลอดเวลา เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ก็สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการที่เราใช้งานอยู่ได้ทันที ผ่านเว็บไซต์ สำหรับผู้ที่สะดวกใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก สามารถเช็คค่าไฟออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์ทางการของผู้ให้บริการ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะดวกและมีฟังก์ชันครบครันไม่แพ้แอปพลิเคชัน เหมาะสำหรับการดูข้อมูลที่ต้องการรายละเอียดเยอะ หรือการทำธุรกรรมที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อความชัดเจน ผ่าน …

เช็คค่าไฟออนไลน์ 2568 ง่าย ๆ ทำได้ 24 ชม. ผ่านเว็บ-ไลน์-แอปพลิเคชัน Read More »

สายล่อฟ้า คืออะไร

สายล่อฟ้า คืออะไร? รู้จักระบบป้องกันฟ้าผ่า มีความสำคัญต่ออาคารอย่างไรบ้าง

ในช่วงฤดูฝนที่ท้องฟ้ามืดครึ้มและมีพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งมาพร้อมกับ ฟ้าผ่า ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลายคนคืออีกทั้งยังสามารถสร้างความเสียหายรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ในชั่วพริบตา อาคารสูง ตึกระฟ้า หรือแม้แต่บ้านพักอาศัยทั่วไปล้วนมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบหากไม่มีระบบป้องกันที่เหมาะสม ดังนั้น การทำความเข้าใจว่า สายล่อฟ้า คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสายล่อฟ้า ระบบป้องกันฟ้าผ่า เพื่อให้เราสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ทำความเข้าใจ “ฟ้าผ่า” ภัยธรรมชาติที่มากับสายฝน ฟ้าผ่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าจำนวนมหาศาลภายในก้อนเมฆ หรือระหว่างก้อนเมฆกับพื้นโลก เมื่อเกิดการเสียดสีของอนุภาคน้ำแข็งและหยดน้ำในเมฆ ทำให้เกิดการสะสมของประจุไฟฟ้าบวกและลบแยกจากกัน เมื่อความต่างศักย์ไฟฟ้ามีค่าสูงมากพอ พลังงานจะถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของสายฟ้าฟาด ซึ่งมีความรุนแรงและเป็นอันตราย ซึ่งสายล่อฟ้า คือ กลไกป้องกันฟ้าผ่าได้ สายล่อฟ้า คืออะไร? หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าสายล่อฟ้า คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ “ล่อ” ให้ฟ้ามาผ่าที่ตัวเอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว สายล่อฟ้า คือ ระบบที่ออกแบบมาเพื่อเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยให้กระแสไฟฟ้าแรงสูงจากฟ้าผ่าไหลผ่านลงสู่พื้นดิน โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างของอาคารหรือเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย พูดง่าย ๆ สายล่อฟ้า คือตัวนำไฟฟ้าที่ถูกควบคุมไว้ เพื่อจัดการกับพลังงานมหาศาลของฟ้าผ่าให้เป็นไปในทิศทางที่เรากำหนดและปลอดภัยที่สุด องค์ประกอบหลักของระบบป้องกันฟ้าผ่าภายนอก สายล่อฟ้า คือ ระบบป้องกันฟ้าผ่าที่มีประสิทธิภาพ ไม่ได้มีแค่เสาแหลม ๆ ที่เราเห็นบนหลังคา แต่ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 …

สายล่อฟ้า คืออะไร? รู้จักระบบป้องกันฟ้าผ่า มีความสำคัญต่ออาคารอย่างไรบ้าง Read More »

ตอบข้อสงสัย ค่าไฟแพงผิดปกติเกิดจากอะไร

ตอบข้อสงสัย ค่าไฟแพงผิดปกติเกิดจากอะไร

เคยเปิดดูบิลค่าไฟแล้วต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยไหม ว่าทำไมเดือนนี้ตัวเลขถึงพุ่งสูงขึ้นกว่าปกติ ทั้งที่รู้สึกว่าก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ปัญหาค่าไฟแพงผิดปกติเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้หลายครัวเรือน แต่ความจริงแล้วสาเหตุอาจอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด บทความนี้จะพาไปสำรวจต้นตอของปัญหา พร้อมแนะนำวิธีตรวจสอบและเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ดีขึ้น ค่าไฟแพงผิดปกติ เกิดจากอะไร สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้บิลค่าไฟพุ่งสูงขึ้นนั้นมาจาก 4 ปัจจัยสำคัญด้วยกัน 1. พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า บ่อยครั้งที่ค่าไฟแพงผิดปกติมีต้นตอมาจากพฤติกรรมการใช้ไฟที่เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว เช่น การทำงานที่บ้าน (Work From Home) ทำให้ต้องเปิดคอมพิวเตอร์และเครื่องปรับอากาศนานขึ้น การมีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้น หรือการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ ๆ เข้ามา การเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยครั้ง หรือการเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้แม้จะปิดแล้ว ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้ารวมสูงขึ้นได้ 2. เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด หรือมีไฟรั่ว เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าหรือชำรุด เช่น แอร์ที่สกปรก ตู้เย็นที่ขอบยางประตูเสื่อมสภาพ จะทำงานหนักกว่าปกติและกินไฟมากขึ้นอย่างมหาศาล ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือการเกิดไฟรั่วในระบบ ซึ่งหมายความว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลทิ้งอยู่ตลอดเวลาแม้ไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์ใด ๆ นอกจากจะเป็นต้นเหตุของค่าไฟแพงผิดปกติแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดไฟดูดได้อีกด้วย การติดตั้งระบบกราวด์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัย 3. ค่าไฟแพงผิดปกติ จากโครงสร้างอัตราค่าไฟ โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าในประเทศไทยใช้ระบบขั้นบันไดหรืออัตราก้าวหน้า หมายความว่ายิ่งใช้ไฟมากเท่าไหร่ ค่าไฟต่อหน่วยก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หน่วยที่ 0-150 คิดในอัตราหน่วยละ 3.2484 …

ตอบข้อสงสัย ค่าไฟแพงผิดปกติเกิดจากอะไร Read More »

วิธีตรวจสอบไฟรั่วเบื้องต้น พร้อมแนะนำวิธีป้องกัน

วิธีตรวจสอบไฟรั่วเบื้องต้น พร้อมแนะนำวิธีป้องกัน

Alt text : วิธีตรวจสอบไฟรั่วเบื้องต้น ปัญหาไฟรั่วเป็นอันตรายเงียบที่สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างต่อเนื่อง หลายคนมักมองข้ามสัญญาณเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น การรู้วิธีตรวจสอบไฟรั่วเบื้องต้นจึงเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมี ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟฟ้ามืออาชีพหรือเจ้าของบ้านทั่วไป บทความนี้จะแนะนำวิธีการตรวจสอบและป้องกันที่สามารถปฏิบัติได้จริง ไฟรั่วคืออะไร ไฟรั่ว คือภาวะที่กระแสไฟฟ้าเกิดการรั่วไหลออกจากวงจรไฟฟ้าปกติ โดยทั่วไปไฟฟ้าจะเดินทางจากแหล่งผลิต ผ่านสายส่ง และถูกปรับแรงดันโดยหม้อแปลงไฟฟ้า ก่อนเข้ามายังบ้านเราผ่านมิเตอร์และไหลเวียนอยู่แค่ในสายไฟหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบไว้ แต่เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลไปตามส่วนอื่น ๆ และเราไปสัมผัสส่วนนั้น กระแสไฟฟ้าก็จะไหลผ่านร่างกายเราลงสู่พื้นดิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการถูกไฟดูดนั่นเอง สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากฉนวนสายไฟเสื่อมสภาพ อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน หรือการติดตั้งที่ผิดพลาด ไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต ต่างกันอย่างไร หลายคนอาจยังสับสนระหว่างคำสามคำนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันอยู่ วิธีเช็กไฟรั่วภายในบ้านง่าย ๆ ด้วยตัวเอง การตรวจสอบไฟรั่วไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เราสามารถทำได้เบื้องต้นเพื่อประเมินความเสี่ยง มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง 1. ตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า การตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า ให้เริ่มจากการปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าและหลอดไฟทุกดวงในบ้าน รวมถึงการถอดปลั๊กตู้เย็นและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ออกทั้งหมด จากนั้นสังเกตจานโลหะในมิเตอร์ไฟฟ้า หากยังคงหมุนอยู่แสดงว่ามีการใช้ไฟฟ้า ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของไฟรั่ว วิธีต่อไปคือการทดสอบเบรกเกอร์โดยปิด-เปิดสลับกัน หากจานโลหะยังคงหมุนเมื่อปิดเบรกเกอร์บางตัว …

วิธีตรวจสอบไฟรั่วเบื้องต้น พร้อมแนะนำวิธีป้องกัน Read More »

รู้หรือไม่_ ทำไมนกเกาะสายไฟแรงสูงแล้วรอด ไฟไม่ดูด!

รู้หรือไม่? ทำไมนกเกาะสายไฟแรงสูงแล้วรอด ไฟไม่ดูด!

มองขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าหรือสายส่งไฟฟ้าตามท้องถนน เราจะเห็นนกมากมายหลายสายพันธุ์เกาะพักผ่อนบนสายไฟอย่างสบายใจ โดยไม่เกิดอันตรายใด ๆ ซึ่งทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจว่า ทำไมนกเกาะสายไฟแรงสูงถึงปลอดภัย ในขณะที่หากเป็นมนุษย์สัมผัสสายไฟเดียวกันนั้น อาจจบชีวิตลงได้ ปรากฏการณ์นี้มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลักการไหลของกระแสไฟฟ้าและคุณสมบัติทางกายภาพของนก บทความนี้จะไขข้อสงสัยและอธิบายเหตุผลที่นกเกาะสายไฟไม่ดูด พร้อมข้อควรรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยจากไฟฟ้าแรงสูง เข้าใจหลักการไหลของกระแสไฟฟ้าแรงสูง กระแสไฟฟ้า คือการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยจะไหลเมื่อมีความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างสองจุด อิเล็กตรอนเหล่านี้จะเดินทางออกจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ส่งผ่านสายส่งไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ แล้วไหลกลับสู่แหล่งกำเนิดผ่านสายกลับหรือสายดิน ซึ่งเรียกกระบวนการนี้ว่า “วงจรปิด” ทำไมนกเกาะสายไฟแรงสูงไม่ดูด การที่นกสามารถเกาะสายไฟแรงสูงได้อย่างปลอดภัยนั้น มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ 3 ประการ 1. นกไม่ได้สัมผัสกับพื้น เมื่อนกเกาะสายไฟแรงสูง ตัวนกจะอยู่บนสายไฟโดยที่ส่วนอื่นของร่างกายไม่ได้สัมผัสกับพื้นดินหรือวัตถุอื่นที่เชื่อมต่อกับดิน เมื่อไม่มีเส้นทางให้กระแสไฟฟ้าไหลลงสู่พื้นดิน ทำให้วงจรไฟฟ้าไม่สมบูรณ์ กระแสไฟฟ้าจึงไม่สามารถไหลผ่านตัวนกได้ ก็จะไม่เกิดการดูดไฟฟ้าขึ้น 2. ไม่มีความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าจะไหลจากจุดที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงไปยังจุดที่มีแรงดันไฟฟ้าต่ำเท่านั้น เมื่อเท้าทั้งสองข้างของนกเกาะอยู่บนสายไฟเส้นเดียวกัน จุดที่เท้าสัมผัสทั้งสองข้างนั้นมีศักย์ไฟฟ้าเท่ากัน หรือมีความต่างศักย์ไฟฟ้าเป็นศูนย์ ทำให้ไม่มีแรงผลักให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายของนก กระแสไฟฟ้าจึงยังคงไหลผ่านสายไฟ ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความต้านทานต่ำกว่าตามปกติ 3. ตัวนกมีความต้านทานสูงกว่าสายไฟ ร่างกายของนก โดยเฉพาะเท้าที่มีเกล็ดหนา มีความต้านทานไฟฟ้าสูงกว่าสายไฟทองแดงที่ทำจากโลหะมาก กระแสไฟฟ้าตามหลักการแล้วจะเลือกไหลผ่านเส้นทางที่มีความต้านทานต่ำที่สุดเสมอ ดังนั้นมันจึงไหลไปตามสายไฟแทนที่จะไหลผ่านตัวนก กระแสไฟฟ้าจึงยังคงไหลอยู่ภายในสายไฟ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ กับนกที่เกาะอยู่เลย …

รู้หรือไม่? ทำไมนกเกาะสายไฟแรงสูงแล้วรอด ไฟไม่ดูด! Read More »

สีของสายไฟ มีความหมายอะไรบ้าง ช่างไฟต้องรู้ก่อนใช้

สีของสายไฟ มีความหมายอะไรบ้าง ช่างไฟต้องรู้ก่อนใช้

สำหรับผู้ใช้งานไฟฟ้าทั่วไป อาจไม่เคยสังเกตว่าสายไฟที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้มีหลากหลายสี และแต่ละสีก็มีความหมายและหน้าที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับช่างไฟฟ้าแล้วสีของสายไฟ คือข้อมูลสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อให้การติดตั้งระบบไฟฟ้าเป็นไปอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด การรู้ความหมายของสายไฟแต่ละสี ไม่เพียงช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันอันตรายร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการต่อสายไฟผิดพลาดด้วย มาตรฐานสีสายไฟล่าสุด ในปัจจุบันมาตรฐานสีสายไฟของประเทศไทยได้ปรับเปลี่ยนเป็น มอก.11-2553 แล้ว ซึ่งเป็นการปรับให้สอดคล้องกับมาตรฐาน IEC 60227 ที่ใช้กันทั่วโลก เพื่อให้ช่างไฟฟ้าและผู้ใช้งานมีมาตรฐานเดียวกันกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม AEC สายไฟแต่ละสีในมาตรฐานปัจจุบันมีความหมายดังนี้ มาตรฐานสีสายไฟในระบบไฟฟ้าแต่ละเฟส ระบบไฟฟ้าแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือระบบไฟฟ้า 1 เฟส และระบบไฟฟ้า 3 เฟส ซึ่งแต่ละระบบมีการใช้สีสายไฟที่แตกต่างกันเพื่อช่วยให้แยกแยะได้ง่ายและป้องกันการต่อผิด ระบบไฟฟ้า 1 เฟส ระบบไฟฟ้า 1 เฟสเป็นระบบที่ใช้กันทั่วไปในบ้านพักอาศัยและสำนักงานขนาดเล็ก ใช้แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เช่น หลอดไฟ พัดลม เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน สีของสายไฟในระบบ 1 เฟสกำหนดไว้ดังนี้ ระบบไฟฟ้า 3 เฟส ระบบไฟฟ้า 3 …

สีของสายไฟ มีความหมายอะไรบ้าง ช่างไฟต้องรู้ก่อนใช้ Read More »

สาย xlpe คืออะไร

สาย XLPE คืออะไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง

งานระบบไฟฟ้าในปัจจุบันมีความซับซ้อนและต้องการความปลอดภัยสูง จึงต้องเลือกใช้สายไฟที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน หนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ คือ สาย XLPE ซึ่งถือเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความทนทาน ความยืดหยุ่น และการใช้งานในอุณหภูมิที่หลากหลาย บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่าสายไฟ XLPE คืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไร และใช้งานในรูปแบบไหนได้บ้าง สาย XLPE คืออะไร​ สาย XLPE คือสายไฟที่มีฉนวนหุ้มทำจากวัสดุโพลีเอทิลีนชนิดพิเศษที่ผ่านกระบวนการ Cross-Linking ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลให้เชื่อมโยงกันแน่นขึ้น ส่งผลให้สายไฟชนิดนี้มีความทนทานต่อความร้อนสูง ความชื้น และแรงดันไฟฟ้าได้มากกว่าสายไฟแบบทั่วไป วัสดุฉนวนชนิดนี้ยังมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เปราะง่าย และสามารถทนต่อสารเคมีได้ดี คุณสมบัติของสาย XLPE ทนความร้อนได้สูงสุดถึง 90°C โดยไม่เสื่อมคุณภาพ ยืดหยุ่นสูง ง่ายต่อการติดตั้งและปรับทิศทาง ทนต่อความชื้น สารเคมี และการกัดกร่อน รองรับแรงดันไฟฟ้าได้ดี ช่วยเพิ่มความปลอดภัย อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับสายฉนวนชนิดอื่น การใช้งานของสาย XLPE สายไฟ XLPE คือสายไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมและระบบไฟฟ้า ดังนี้ 1. ระบบไฟฟ้าภายในอาคาร สายไฟ XLPE เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในอาคารขนาดใหญ่ เช่น อพาร์ทเมนต์ …

สาย XLPE คืออะไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง Read More »

แรงดันไฟฟ้าคืออะไร

แรงดันไฟฟ้าคืออะไร มีหน่วยเป็นอะไร สรุปแบบเข้าใจง่ายที่นี่

เคยสงสัยไหมว่าทำไมเครื่องใช้ไฟฟ้าถึงทำงานได้ เบื้องหลังการทำงานเหล่านั้น มีสิ่งที่เรียกว่า แรงดันไฟฟ้า เป็นปัจจัยสำคัญ แล้วแรงดันไฟฟ้า คืออะไร มีหน่วยวัดอย่างไร และมีกี่ประเภทที่เราควรรู้จัก บทความนี้จะสรุปเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับแรงดันไฟฟ้าให้คุณเข้าใจง่าย ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานไฟฟ้าในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แรงดันไฟฟ้าคืออะไร แรงดันไฟฟ้า คือแรงที่ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลไปตามตัวนำ เช่น สายไฟ เกิดขึ้นเมื่อปลายของสายไฟทั้งสองด้านมีศักย์ไฟฟ้าที่แตกต่างกัน หากเปรียบเทียบกับน้ำ แรงดันไฟฟ้าก็เหมือนกับแรงดันน้ำที่ทำให้น้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ โดยธรรมชาติ พลังงานไฟฟ้าจะไหลจากจุดที่มีศักย์ไฟฟ้าสูงไปยังจุดที่มีศักย์ไฟฟ้าต่ำกว่า แรงดันไฟฟ้านี้เป็นตัวผลักดันให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านสายไฟไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ถ้าไม่มีแรงดัน หรือแรงดันไม่พอ กระแสไฟก็จะไม่ไหล หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แรงดันไฟฟ้ามีหน่วยเป็นอะไร แรงดันไฟฟ้ามีหน่วยวัดเป็นโวลต์ (Volt) และย่อว่า V ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการวัดพลังงานไฟฟ้า ตัวอย่างแรงดันไฟฟ้าที่พบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ถ่านไฟฉายทั่วไป แรงดันไฟฟ้าประมาณ 1.5 โวลต์ แบตเตอรี่รถยนต์ ประมาณ 12 โวลต์ ไฟบ้านทั่วไป ประมาณ 220 โวลต์ ระบบสายส่งไฟฟ้าระยะไกล อาจสูงถึง 500,000 โวลต์ (500 กิโลโวลต์) ระดับของแรงดันไฟฟ้าจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้งานเสมอ …

แรงดันไฟฟ้าคืออะไร มีหน่วยเป็นอะไร สรุปแบบเข้าใจง่ายที่นี่ Read More »