ระบบกราวด์หรือสายดินเป็นส่วนสำคัญของระบบไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าลัดวงจร และฟ้าผ่า การติดตั้งระบบกราวด์ที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอาคารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย คอนโด หรือโรงงานอุตสาหกรรม ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบกราวด์กัน
สายดิน (Grounding System) คืออะไร
ระบบกราวด์หรือสายดิน คือ ระบบที่ใช้ต่อเชื่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าและโครงสร้างโลหะเข้ากับดิน เพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลหรือเกินพิกัดสามารถไหลลงสู่ดินได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ตัวนำไฟฟ้าที่มีความต้านทานต่ำ เช่น สายทองแดง แท่งทองแดง หรือแผ่นเหล็กชุบสังกะสี ฝังลงในดินที่มีความชื้นเพียงพอ เพื่อให้การระบายประจุไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมต้องมีระบบกราวด์
ระบบกราวด์มีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการใช้งานระบบไฟฟ้า เพราะช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต และความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่อาจเกิดจากไฟกระชากหรือฟ้าผ่า นอกจากนี้ยังช่วยให้อุปกรณ์ป้องกันในระบบไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์ หรือฟิวส์ สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วเมื่อเกิดการลัดวงจร
ความปลอดภัยของระบบกราวด์
ระบบกราวด์ที่ได้มาตรฐานจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยทำหน้าที่เป็นเส้นทางให้กระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลไหลลงสู่ดินแทนที่จะไหลผ่านร่างกายมนุษย์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การติดตั้งระบบกราวด์จึงต้องดำเนินการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญและใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน
สายดิน ระบบกราวด์ไฟฟ้า ควรมีมาตรฐานอะไรบ้าง
การติดตั้งระบบกราวด์ไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- ค่าความต้านทานดินไม่เกิน 5 โอห์ม สำหรับอาคารทั่วไป
- ค่าความต้านทานดินไม่เกิน 1 โอห์ม สำหรับอาคารที่ต้องการความปลอดภัยสูง
- สายดินต้องมีขนาดเหมาะสมตามมาตรฐาน วสท.
- แท่งกราวด์ต้องฝังลึกอย่างน้อย 2.4 เมตร
- จุดต่อต้องแน่นหนาและป้องกันการกัดกร่อน
- ต้องมีบ่อตรวจสอบค่าความต้านทานดิน
- วัสดุอุปกรณ์ต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก.
การติดตั้งระบบกราวด์ไฟฟ้า
การติดตั้งระบบกราวด์ไฟฟ้าที่ถูกต้องต้องดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
- สำรวจพื้นที่และออกแบบระบบกราวด์
- ขุดหลุมสำหรับฝังแท่งกราวด์ให้ได้ความลึกที่กำหนด
- ติดตั้งแท่งกราวด์และระบบสายดิน
- เชื่อมต่อสายดินเข้ากับจุดต่อหลัก
- ติดตั้งบ่อตรวจสอบค่าความต้านทานดิน
- วัดค่าความต้านทานดินและทดสอบระบบก่อนใช้งานจริง
ระบบกราวด์ในบ้าน คอนโดหอพัก โรงงาน ต่างกันอย่างไร
การติดตั้งระบบกราวด์ในอาคารแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน ดังนี้
1. ระบบกราวด์ในบ้าน
สำหรับบ้านพักอาศัย ระบบกราวด์มักเป็นแบบแท่งเดี่ยวหรือวงแหวน ต้องต่อสายดินเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงเป็นโลหะ เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ รวมถึงแผงไฟฟ้าและท่อโลหะต่างๆ เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วและฟ้าผ่า
2. ระบบกราวด์ในคอนโด หอพัก
อาคารสูงต้องมีระบบกราวด์ที่ซับซ้อนกว่า มักใช้ระบบตาข่ายหรือแท่งกราวด์หลายจุดเชื่อมต่อกัน ต้องมีระบบป้องกันฟ้าผ่าที่ครอบคลุม และระบบกราวด์สำหรับลิฟต์ ระบบปั๊มน้ำ และระบบไฟฟ้าส่วนกลางต่างๆ
3. ระบบกราวด์ในโรงงาน
โรงงานอุตสาหกรรมต้องมีระบบกราวด์ที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพสูง ใช้ระบบตาข่ายหรือแท่งกราวด์จำนวนมากเชื่อมต่อกัน มีค่าความต้านทานดินต่ำ และต้องแยกระบบกราวด์สำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงโดยเฉพาะ
สรุป
ระบบกราวด์เป็นส่วนสำคัญของระบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพและติดตั้งอย่างถูกต้องตามมาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ TETA INTERTRADE เราจำหน่ายอุปกรณ์ระบบกราวด์คุณภาพสูง ได้มาตรฐาน มอก. พร้อมให้คำปรึกษาและบริการติดตั้งโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ระบบไฟฟ้าของคุณมีความปลอดภัยสูงสุด สั่งซื้อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-068-9690 หรือ 086-544-3647